News





อิสราเอลโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยในกาซ่า สังหารชาวปาเลสไตน์ 20 คน



   กองทัพอิสราเอลโจมตีทั่วกาซ่าในวันจันทร์ สังหารชาวปาเลสไตน์ 20 คน รวมทั้งเด็กสองคนที่อาศัยอยู่ในเต็นท์ภายในค่ายผู้ลี้ภัย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในกาซ่า  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานคำกล่าวของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกาซ่าว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่เขตอัล-มาวาซี ซึ่งถูกจัดให้เป็นเขตมนุษยธรรมและมีเต็นท์ของผู้ลี้ภัยตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน เป็นเด็ก 2 คน นอกจากนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 2 คนจากการโจมตีค่ายผู้อพยพในเมืองราฟาห์ และอีก 4 คนเสียชีวิตจากการโจมตีค่ายผู้อพยพในเมืองนูเซรัตในแถบตอนกลางประเทศ ส่วนที่เมืองบีอิท ลาฮียา ทางเหนือของกาซ่า มีรายงานผู้เสียชีวิตหลายสิบคนจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลใส่อาคารที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่ง รวมท้ังการโจมตีบ้านหลังหนึ่งในกาซ่าซิตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บ 10 คน  เมื่อวันอาทิตย์ กองทัพอิสราเอลกล่าวว่าได้ปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายกลุ่มก่อการร้ายในภาคเหนือของกาซ่า โดยกล่าวหาว่ากลุ่มฮามาสใช้ชุมชนและที่อยู่อาศัยของประชาชนต่าง ๆ เป็นโล่กำบัง รวมทั้งในเขตโรงพยาบาลหลายแห่ง ซึ่งทางฮามาสออกมาปฏิเสธ  ทางกระทรวงสาธารณสุขกาซ่าระบุว่า มีประชาชนเสียชีวิต 76 รายในกาซ่าในช่วง 24 ชม. ที่ผ่านมา จากการโจมตีของอิสราเอล เมื่อเดือนที่แล้ว อิสราเอลส่งรถถังและทหารเข้าไปในเขตบีอิท ลาฮียา และจาบาเลีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของค่ายผู้อพยพขนาดใหญ่ที่สุดในกาซ่า เพื่อกำจัดนักรบฮามาสที่กลับมารวมกลุ่มใหม่ ผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตบีอิท ลาฮียา กล่าวว่า ทหารอิสราเอลได้บุกยึดโรงพยาบาลเอาไว้ และองค์การอนามัยโลกไม่สามารถส่งความช่วยเหลือด้านอาหาร ยารักษาโรค และอุปกรณ์ผ่าตัดเข้าไปได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเด็กขาดสารอาหารเพิ่มขึ้นจำนวนมาก  ทางองค์กร COGAT ของกองทัพอิสราเอล ซึ่งดูแลด้านกิจการชาวปาเลสไตน์ กล่าวว่า ได้อำนวยความสะดวกให้จัดส่งความช่วยเหลือด้านเชื้อเพลิง 10,000 ลิตร และอุปกรณ์การแพทย์ 149 กล่อง เข้าไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ ทางเหนือของกาซ่าเมื่อวันอาทิตย์ สงครามในกาซ่าเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปีที่แล้ว เมื่อกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลและสังหารประชาชน 1,200 คน พร้อมกับจับตัวประกันไปราว 250 คน ต่อมาอิสราเอลใช้ปฏิบัติการทางทหารในกาซ่าและสังหารประชาชนไปแล้วกว่า 43,800 คนอ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในกาซ่า  ที่มา: รอยเตอร์
แหล่งข่าวจาก